การที่จะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้การตั้งครรภ์ประสบผลสำเร็จ ซึ่งเทคนิคในการนับวันตกไข่ จะช่วยทำให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้แม่ๆ คาดการช่วงไข่ตกได้แม่นยำขึ้นนั่นคือ “แผ่นตรวจไข่ตก” และสามารถจะทำภาระกิจในช่วงเวลานั้น แต่ยังมีหลายคนเข้าใจผิดกับการใช้แผ่นตรวจเพราะอะไร ทาง Mommybooster จะอธิบายตามนี้นะคะ
- แผ่นตรวจไข่ตก ไม่ได้ Positive หลังจากไข่ตก
- แผ่นตรวจไข่ตก ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
- แผ่นตรวจไข่ตก แม้ผลจะเป็นลบ ก็อาจมีไข่ตกได้
ความสำคัญของการตรวจไข่ตกสำหรับผู้หญิงที่วางแผนมีบุตร
หนึ่งในความฝันของคู่รักหลายคู่คือการมีลูกน้อยน่ารักๆ มาเติมเต็มครอบครัว แต่รู้ไหมว่าการจะมีลูกไม่ใช่แค่เรื่องของการ “ลองๆ ดู” อย่างเดียว!
การตรวจไข่ตกเป็นเหมือน “กุญแจสำคัญ” ที่จะช่วยให้คุณรู้จังหวะเวลาทองของการตั้งครรภ์ เพราะไข่จะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 24 ชั่วโมงหลังตกไข่เท่านั้น ถ้าเรารู้ช่วงเวลาที่แม่นๆ ก็เหมือนเรามีแผนที่นำทางไปสู่การตั้งครรภ์แบบไม่ต้องลุ้นนานเกินไป
นอกจากนี้ การตรวจไข่ตกยังช่วยให้เราเข้าใจร่างกายตัวเองมากขึ้น รู้ว่าฮอร์โมนทำงานเป็นปกติไหม หรือมีอะไรผิดปกติที่ควรปรึกษาคุณหมอ เรียกว่าเป็นการ “จับสัญญาณ” จากร่างกายแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ที่บ้าน
เปรียบเหมือนการทำอาหาร ถ้าเรารู้จังหวะเวลาที่ใส่เครื่องปรุงได้พอดี อาหารก็จะออกมาอร่อย การมีลูกก็เช่นกัน ถ้าเรารู้จังหวะเวลาที่เหมาะสม โอกาสที่จะ “ทำสำเร็จ”
แผ่นตรวจไข่ตก มีหลักการยังไงบ้าง
LH (Luteinizing hormone) หรือ LH surge คือฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการตกไข่ ซึ่งแผ่นตรวจไข่ตก จะตรวจหาระดับสูงสุดของฮอร์โมน LH และหลังจากจุดนี้ประมาณ 12-36 ชั่วโมง จะเกิดการตกไข่นั่นเอง
“เพราะโอกาสตั้งครรภ์จะสูงที่สุด หากมีเพศสัมพันธ์ 2 วันก่อนไข่ตก และ แผ่นตรวจไข่ตกจะ Positive 12-36 ชั่วโมงก่อนไข่ตก ดังนั้นแผ่นตรวจตั้งครรภ์จึงมีประโยชน์มาก ที่จะทำให้เรามีเพศสัมพันธุ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสุดๆค่ะ”
ถ้าแผ่นตรวจไข่ตก Positive ก็คาดการณ์ได้ว่าจะมีไข่ตกภายใน 12-36 ชั่วโมง ทำให้เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่จะปฏิบัติภาระกิจ เพื่อให้มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
แผ่นตรวจไข่ตก ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
- เริ่มใช้แผ่นตรวจไข่ตกได้ ในช่วงก่อนวันไข่ตก 4-5 วัน เช่น รอบเดือน 28 วัน ไข่จะตกวันที่ 14 ของรอบเดือน ให้เริ่มใช้แผ่นตรวจในวันที่ 9-10 ของรอบเดือน
- ใช้แผ่นตรวจ ตรวจเรื่อยๆ จนผลได้ Positive
- ควรตรวจสายๆ หรือช่วงบ่าย เพราะระดับ LH จะสูงมากในสายหรือบ่าย ก่อนตรวจควรกลั้นปัสสาวะเพื่อให้ระดับเข้มข้นขึ้น
- ควรตรวจช่วงเวลาเดียวกันทุกวัน และตรวจอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน
- ทำตามคำแนะนำของแต่ละยี่ห้อ โดยทั่วไปคือ เก็บปัสสาวะในภาชนะ จุ่มแผ่นตามแถบที่แนะนำไม่เกิน 10 วินาที แปลผลไม่เกิน 15 นาที
- ถ้าแถบที่ 2 ขึ้นชัด เท่ากับหรือมากกว่าเส้นควบคุม แปลผล Positive นั่นคือจะมีไข่ตกภายใน 12-36 ชั่วโมงหลังจากนี้
ข้อดีของการใช้แผ่นตรวจไข่ตก
มาดูข้อดีของแผ่นตรวจไข่ตกกันดีกว่า ว่าทำไม Mommybooster ถึงเชียร์ให้มาใช้กันนะคะ
คิดง่ายๆ ว่าแผ่นตรวจไข่ตกเนี่ย เหมือน “กุรูส่วนตัว” ที่คอยบอกจังหวะการตั้งครรภ์ให้เราแบบไม่ต้องวิ่งไปหาหมอบ่อยๆ ใช้งานง่ายแค่จุ่มปั๊บ รอแป๊บเดียว ก็รู้ผลแล้ว ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถฝ่ารถติดไปโรงพยาบาล!
เรื่องค่าใช้จ่ายก็ประหยัดสุดๆ เทียบกับค่าตรวจที่โรงพยาบาลแล้วถูกกว่าเยอะ แถมยังใช้ได้หลายรอบในแต่ละเดือน ถ้าอยากตรวจให้แน่ใจ จะตรวจวันเว้นวันก็ยังได้ ไม่ต้องกลัวเปลืองเงินมาก
คำแนะนำหลังแผ่นตรวจไข่ตก
ถ้าแผ่นตรวจไข่ตก Positive แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ได้รับผลบวก และมีต่อเนื่องอีก 2-3 วัน เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ โอกาสสำเร็จอยู่แค่เอื้อมค่ะ
แผ่นตรวจไข่ตกไม่ควรใช้กับคนที่มีปัญหา PCOS หรือ Polycystic ovary syndrome หรือ ถุงน้ำรังไข่หลายใบ เพราะภาวะนี้มักไม่มีไข่ตก ทำให้ผลไม่น่าเชื่อถือได้
กระซิบความลับสำหรับคนอยากมีลูก
- ใช้แผ่นตรวจไข่ตกอย่างน้อย 3 วันก่อนวันไข่ตกทำเรื่อยๆทุกวันจนได้ผล Positive
- ถ้าผลเป็นบวกให้ปฎิบัติภารกิจ (มีเพศสัมพันธ์) ในวันนั้น และ/หรือทำอีกหลังจากนั้น 2 วันถัดมา
- ตรวจช่วงสายๆ หรือบ่าย ควรงดปัสสาวะ 4 ชั่วโมง และไม่ควรดื่มน้ำเยอะก่อนตรวจ
Mommybooster หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้เพื่อนๆ สามารถใช้ประโยชน์จากแผ่นตรวจไข่ตกนี้ ให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพจริงๆ นะคะ